ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อโซฟา อย่าลืมพิจารณา 3 ข้อสำคัญต่อไปนี้

“โซฟา” ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นที่ได้รับความนิยมในการใช้งานอย่างมากสำหรับการตั้งวางบริเวณห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขกไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด ออฟฟิศ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับความผ่อนคลาย นุ่มสบายมากกว่าเก้าอี้ทั่วไป แต่การจะตัดสินใจเลือกซื้อก็จำเป็นต้องประเมินปัจจัยในหลายด้านเพื่อให้มั่นใจถึงความคุ้มค่าที่ได้รับ ลองมาเช็กลิสต์ทีละข้อกันเลยว่ามีเรื่องไหนต้องพิจารณาอย่างเหมาะสมบ้าง

ประเภทของโซฟาสำหรับการใช้งาน

แม้ภาพรวมของโซฟาจะมีลักษณะเป็นเบาะนุ่ม เลือกได้ทั้งแบบมีและไม่มีพนักพิง แต่จริง ๆ แล้วก็ยังถูกแยกประเภทเพื่อความเหมาะสมในการใช้งานและตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้มากที่สุด ดังนี้

  1. โซฟาแบบตัว I
    นี่คือประเภทของโซฟาที่พบเจอได้บ่อยมากที่สุด ด้วยลักษณะการเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียว หรือหลายชิ้นวางยาวติดกันเหมือนกับอักษรตัว I รองรับการใช้งานได้ตั้งแต่ 1 คน ไปจนถึง 4 คน (หรืออาจมากกว่านั้นหากมีการตั้งวางยาวต่อกันตามจำนวนผู้ใช้) นิยมใช้เพื่อการนั่งเพื่อผ่อนคลาย สันทนาการไปกับการรับชมทีวี เล่นเกม แม้พื้นที่ขนาดเล็ก เช่น คอนโด ออฟฟิศ ก็สามารถตั้งวางได้โดยไม่สิ้นเปลืองบริเวณโดยรอบ
  1. โซฟาแบบตัว L
    ประเภทต่อมาจะเป็นลักษณะโซฟา 2 ชิ้น วางติดกัน โดยชิ้นแรกจะมีความยาววางเป็นตัวหลัก ส่วนอีกชิ้นจะวางตั้งฉากทำมุมแบบ 90 องศา สามารถเลือกวางได้ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของตัวหลัก ลักษณะที่ได้จึงคล้ายกับรูปตัว L เหมาะกับบ้านที่มีขนาดกลางและขนาดใหญ่ สามารถรองรับจำนวนคนได้มากขึ้น เหมาะกับบ้านที่มีสมาชิกหลายคน
  1. โซฟาแบบตัว U
    ประเภทสุดท้ายจะเป็นการนำโซฟาตัวหลักวางแล้วประกบด้วยตัวเล็กขนาบ 2 ข้าง ลักษณะจึงคล้ายกับตัว U นิยมใช้กับบ้านที่มีขนาดใหญ่ หรือพื้นที่บริเวณนั้นใหญ่โตมากพอโดยไม่กีดขวางการทำกิจกรรมอื่น ๆ เหมาะสำหรับใช้เพื่อนั่งพูดคุยทั่วไป พูดคุยธุรกิจ การทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว เช่น การทานอาหาร ทานขนม การเล่นบอร์ดเกม เป็นต้น

ขนาดของโซฟากับการใช้งาน

หากเป็นขนาดความกว้างจะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้งานแล้วเลือกให้เพียงพอกับการนั่ง ซึ่งหลักที่อยากให้พิจารณาคือด้านข้างของผู้นั่งทุกคนควรมีพื้นที่เหลือเล็กน้อยประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อความสบาย ไม่เบียดเสียดหรืออึดอัดมากเกินไป ขณะที่ความลึกจากขอบด้านหน้าไปถึงพนักพิงหรือขอบด้านหลังแนะนำว่าควรมีขนาดตั้งแต่ 45-60 เซนติเมตร เมื่อนั่งลงไปแล้วให้มีระยะห่างจากช่วงพนักพิงจนถึงก้นประมาณ 10-15 เซนติเมตร สำหรับการวางหมอนพิงด้านหลัง ส่วนความสูงขึ้นอยู่กับความชอบของตัวผู้ใช้งาน แต่ขนาดที่แนะนำสำหรับความสูงคนไทยควรสูงประมาณ 40-45 เซนติเมตร เพื่อให้การงอขากำลังพอดี ขาถึงพื้นแบบไม่ลอยขึ้นด้านบน นั่งสบาย ลุกง่าย

วัสดุห่อหุ้มภายนอกของโซฟา

ข้อนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะบ่งบอกความนุ่มสบาย ความสะดวกเมื่อต้องทำความสะอาด รวมถึงราคาก็มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ซึ่งวัสดุที่ได้รับความนิยมในการห่อหุ้มประกอบไปด้วย

  1. โซฟาผ้า
    มีทั้งแบบผ้าคอตตอน 100% (ผ้าฝ้าย) ผ้าโพลีเอสเตอร์ และผ้าฝ้ายผสมกับโพลีเอสเตอร์ จุดเด่นสำคัญคือสามารถเลือกสีสันหรือลวดลายความสวยงามได้ตามชอบ ให้ความเย็นสบายมากกว่าวัสดุประเภทอื่น แต่จะสกปรกง่ายโดยเฉพาะการซึมน้ำจนเกิดคราบ อมฝุ่น ทำความสะอาดยาก และลามไฟได้ง่าย
  1. โซฟาหนังเทียม
    จะมีให้เลือกหลายรูปแบบทั้งผลิตจากหนัง Semi PU หนัง PU หนัง SU หรือ หนัง PVC จึงมีลวดลายและสีสันเยอะ ทำความสะอาดง่าย ราคาถูกเมื่อเทียบกับวัสดุหุ้มประเภทอื่น แต่อายุการใช้งานสั้นเฉลี่ยประมาณ 3-5 ปี ยิ่งถ้าเจอความร้อนหรือแสงแดดส่องเข้าถึงบ่อย ๆ หนังเทียมจะกรอบแตก เกิดรอยฉีกขาดได้ง่าย นั่งแล้วสัมผัสถึงความหยาบไม่ค่อยสบายตัวมากนัก
  1. โซฟาหนังแท้
    เป็นประเภทวัสดุห่อหุ้มโซฟาที่ผลิตจากหนังสัตว์แท้ ให้ความหรูหรา เงางาม ใช้งานได้ยาวนานหลัก 10-20 ปี โดยไม่ต้องกลัวขาด ทำความสะอาดง่าย ผิวสัมผัสนุ่มยิ่งใช้งานบ่อยก็จะนิ่มลงจนรู้สึกสบายมาก อย่างไรก็ตามด้วยคุณภาพที่ดีจึงต้องแลกมาด้วยราคาอันแสนแพงและค่าซ่อมแซมสูงมากหากเกิดการฉีกขาดเสียหาย

ทั้งหมดนี้คือ 3 ข้อหลัก ๆ ที่จำเป็นต้องพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกซื้อโซฟาเพื่อการันตีถึงความคุ้มค่า ใช้งานแล้วรู้สึกดี ทั้งนี้อย่าลืมประเมินถึงเรื่องดีไซน์ที่เหมาะกับสไตล์ของห้องในการตั้งวาง เพิ่มความมีระดับ น่าประทับใจ และที่สำคัญต้องเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน มีการรับประกันสินค้า หากเกิดปัญหาใดในระหว่างใช้และยังอยู่ในระยะเวลาประกันจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม https://www.harvbrand.com/seating-sofa/